การเช่าพระพุทธรูป หรือเครื่องบูชามากราบไหว้สักการะตามความศรัทรานั้น ย่อมสร้างบุญ กุศล และนำพาความเจริญมาแก่ผู้กราบไหว้ทุกคน เพียงแต่วันนี้ เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับ ‘พระพุทธรูป’ ปางประจำเดือนเกิด เพื่อช่วยให้การตัดสินในการเช่าพระพุทธรูปของคุณ หรือเพื่อคนที่คุณรักนั้นเพิ่มบุญกุศล และเสริมสิริมงคลให้มากขึ้นไปอีก
เดือนมกราคม : พระปางปลงกัมมัฏฐาน (ปางซักผ้าบังสุกุล)
พระพุทธจะอยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ขวาชี้ออกไปข้างหน้า พระหัตถ์ซ้ายทรงธารพระกร(ไม้เท้าเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการหยิบถือผ้าบังสุกุล) ทอดพระเนตรลงต่ำ เป็นพระท่าทางของการซักผ้าบังสุกุล ในพุทธประวัติเล่าว่า ท้าวสักกเทวราชเสด็จลงมาช่วยทำจีวร ตั้งแต่ซักตาก ไปถึงขั้นตอนเย็บคืนเดียว และจีวรผืนนั้นได้กลายเป็นผ้าสังฆาฏิแก่พระมหากัสสปะ ผู้เป็นเอตทัคคะด้านถือธุดงค์ในที่สุด พระปางปลงกัมมัฏฐาน (ปางซักผ้าบังสุกุล)เสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนมกราคม
เดือนกุมภาพันธ์ : พระปางชี้มาร
พระพุทธรูปจะอยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระพักตร์พร้อมชี้นิ้วไปด้านหน้า พระหัตถ์ซ้ายปล่อยแนบพระวรกาย ในพุทธประวัติเล่าว่า พระโคถิกเถระสำเร็จธรรมเป็นพระอรหันต์ และได้ดับขันต์เข้านิพพาน ถูกมารร้ายออกตามหาวิญญาณเพราะคิดว่าวิญญาณท่านยังคงอยู่ในภพภูมิ สุดท้ายมารแปลงกายเป็นมาณพน้อยเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อวางอุบายหลอกถามถึงที่อยู่ของพระโคถิกเถระ พระพุทธองค์ได้ตรัสตอบว่า พระโคธิกะนิพพานแล้ว จึงทำให้มารตกใจและหายตัวจากไป พระปางชี้มารเสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนกุมภาพันธ์
เดือนมีนาคม : พระปางประทานโอวาท(ปางแสดงโอวาทปาติโมกข์)
พระพุทธรูปจะอยู่ในพระอิริยาบถประทับขัดสมาธิ พระหัตถ์ทั้งสองยกขึ้นจีบนิ้วพระหัตถ์ไว้เสมอพระอุระ พระพุทธประวัติเล่าว่า พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกช์ในวันเพ็ญเดือนสาม แก่พระสงค์จำนวน 1,250 รูป ที่มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย โดยใจความสำคัญของโอวาทนั้น ก็คือให้ละเว้นความชั่วทั้งปวง ทำจิตใจให้บริสุทธิ์และทำความดี สุดท้ายพระสงค์ทั้งหมดนั้นได้เป็นเอหิภิกขุ(พระพุทธเจ้าประทานอุปสมบทให้)ทั้งหมด ปางประทานโอวาท(ปางแสดงโอวาทปาติโมกข์) เสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนมีนาคม
เดือนเมษายน : พระปางคาวโลก
พระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถยืน พระหัตถ์ซ้ายปล่อยลงตามปกติ พระหัตถ์ขวาปล่อยลงเยื้องมาด้านหน้า เอี้ยวพระวรกายผินพระพักตร์ เหลียวไปด้านหลัง (บางรูปแบบยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเสมอพระอุระ) พระพุทธประวัติเล่าว่า “นาคาวโลก” คือการเหลียวมองอย่างพญาช้าง เป็นการเหลียวมองเมืองเวสาลีที่จะถูกอชาติศัตรูบุกยึด หลังจากพระพุทธเสด็จออกจากกรุงเวสาลีพร้อมคณะสงฆ์พร้อมเหล่าภิกษุสงฆ์เพื่อเป็นการเทศนาครั้งก่อนปรินิพพาน เหตุเพราะกษัตริย์ลิจฉวีขาดการตั้งมั่นในอาปริหานิยธรรมที่พระองค์ทรงประทานให้ใช้ปกครอง พระปางคาวโลกเสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนเมษายน
เดือนพฤษภาคม : ปางคันธารราฎ(ปางขอฝน)
พระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถประทับขัดสมาธิ ทรงผ้าวัสสิกสาฎก(ผ้าอาบน้ำฝน) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเป็นกิริยาขอฝน พระหัตถ์ซ้ายวางอยู่บนพระเพลา(ตัก) บางแบบหงายพระหัตถ์ซ้ายวางอยู่บนพระชานุ(เข่า) ในพุทธประวัติเล่าว่า หลังการเสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้าแล้วเป็นเวลาประมาณ 500 ปี พุทธสาวกของพระพุทธเจ้านามพระนาคเสน ได้โต้ตอบปัญหาธรรมะกับพระเจ้ามิลินท์ กษัตริย์แห่งเมืองคันธาระ เมื่อพระเจ้ามิลินท์เห็นว่าพระนาคเสนสามารถตอบคำถามทางธรรมะพุทธศาสนาได้ทุกข้อ จึงได้ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดของตน และรับสั่งให้สร้างพระปางคันธารราฎขึ้น ปางคันธารราฎ(ปางขอฝน)เสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนพฤษภาคม
เดือนมิถุนายน : ปางมารวิชัย(ปางสะดุ้งมาร)
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบทประทับขัดสมาธิ พระหัตถ์ขวาวางบนพระชานุ(เข่า) นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงพื้นธรณี พระหัตถ์ซ้ายวางหงายอยู่บนพระเพลา(ตัก) ในพุทธประวัติเล่าว่าขณะที่พระบรมโพธิสัตว์ประทับ ณ โพธิบัลลังก์ พญามารวสวัตตีประทับบนหลังช้างคีรีเมขล์สูง 150 โยชน์(16,000 เมตร) ยกทัพมาหมายจะทำลายความเพียรของพระพุทธเจ้า พร้อมนำเหล่าเสนามารมากมาย เหล่าเทวดาทั้งหลายหนีไปหมด แต่พระบรมโพธิสัตว์มิได้หวั่นเกรงแต่อย่างใด พวกมารซัดศัสตราวุธเข้าใส่พระบรมโพธิสัตว์ แต่ศัสตราวุธเหล่านั้น กลับกลายเป็นบุปผามาลัยไปสิ้น พญามารกล่าวว่า รัตนบัลลังก์เป็นของตน พระพุทธเจ้าจึงทรงกล่าวว่า "รัตนบัลลังก์นี้เกิดมาด้วยบุญที่พระองค์สั่งสมมาแต่ปางก่อน โดยอาศัยแม่พระธรณีเป็นพยาน" แม่พระธรณีได้ปล่อยมวยผมบีบน้ำ กรวดอุทิศผลบุญ จากการทำทานของพระบรมโพธิสัตว์ ให้ไหลพัดพาเหล่ามารไปจนสิ้น ปางมารวิชัย(ปางสะดุ้งมาร)เสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนมิถุนายน
เดือนกรกฎาคม : พระปางเรือนแก้ว
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับขัดสมาธิในเรือนแก้ว พระหัตถ์ขวาวางคว่ำอยู่บนพระราชานุ(เข่า) พระหัตถ์ซ้ายวางหงายอยู่อยู่เพลา(ตัก) ในพุทธประวัติเล่าว่า พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นประทับขัดสมาธิ ณ เรือนแก้วที่เทวดาเนรมิตถวายทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของต้นศรีมหาโพธิ์หลังจากสัปดาห์ที่ 4 ของวันตรัสรู้ ทรงพิจารณาธรรมตลอดเวลา 7 วัน สถานที่นั้นเรียกว่า "รัตนฆรเจดีย์" จึงมีโอภาสออกมาจากพระวรกาย พระปางเรือนแก้วเสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนสิงกรกฎาคม
เดือนสิงหาคม : ปางปฐมเทศนา
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบทประทับขัดสมาธิ พระหัตถ์ขวาจีบนิ้วพระหัตถ์เป็นวงกลม พระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา(ตัก) ในพุทธประวัติเล่าว่า พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปฐมเทศนา คือ ธรรมจักกัปปวัตนสูตร โปรดปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมื่อพาราณสี เป็นเหตุให้โกณฑัญญะได้บรรลุธรรมตามพระพุทธองค์ เป็นพระอริยสงฆ์องค์แรก ผู้เป็นสักขีพยานการตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้าได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนาด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา เป็นวันที่พระสังฆรัตนะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก วันนี้จึงถือว่า เป็นวันที่พระรัตนตรัยเกิดขึ้น ในโลกอย่างสมบูรณ์ ปางปฐมเทศนาเสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนสิงหาคม
เดือนกันยายน : ปางภัติกิจ(เสวยพระกระยาหาร)
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบทประทับขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายประคองบาตรซึ่งวางอยู่บนพระเพลา(ตัก) พระหัตถ์ขวาหย่อนลงในบาตรเป็นกิริยาเสวย ในพุทธประวัติเล่าว่า ยสกุลบุตรผู้หนีความวุ่นวายในเรือนออกมา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าจนเป็นพระโสดาบัน ต่อมาพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดบิดาของยสกุลบุตรได้แสดงตนเป็นอุบาสกขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง นับเป็นปฐมอุบาสกผู้ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งคนแรกในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้ยสกุลบุตร วันต่อมาทรงรับนิมนต์ไปเสวยภัตตาหารที่บ้านบิดาพระยสะเถระ นับเป็นครั้งแรกที่เสด็จไปเสวยภัตตาหารตามบ้านและได้ทรงแสดงธรรมโปรดมารดาและภรรยาเก่าของพระยสะเถระ จนได้ เป็นพระโสดาบัน และขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเป็นอุบาสิกาคู่แรกในพระพุทธศาสนา ปางภัติกิจเสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนกันยายน
เดือนตุลาคม : ปางประดิษฐานลอยพระพุทธบาท
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยายืน พระหัตถ์ทั้งสองวางบนพระเพลา(ตัก) พระบาทซ้ายทรงเหยียบหลังพระบาทขวา ในพุทธประวัติเล่าว่าปางประดิษฐานรอยพระพุทธบาทนั้นเกี่ยวข้องกับพระพุทธประวัติ 3 เหตุการณ์ ดังนี้ คือ..
ครั้งที่ 1 : เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จเขาสัจพันธ์ ทรงหยุดบุษบกอยู่บนอากาศ เพื่อทรมานสัจพันธ์ฤาษีให้ละมิจฉาทิฐิ จนได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ แล้วขึ้นบุษบกตามเสด็จไปยังสถานที่ที่ทรงรับนิมนต์ไว้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงทำภัตกิจเสร็จ พญานาคราชทูลขอให้ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ริมฝั่งนัมทามหานที
ครั้งที่ 2 : เมื่อเสด็จกลับถึงเขาสัจพันธ์ ได้ตรัสสั่งพระสัจพันธ์ให้พักอยู่ที่เขาแห่งนี้ เพื่อปลดเปลื้องผู้ที่พระสัจพันธ์เคยสอนลัทธิผิด ๆ ไว้ ให้พ้นจากมิจฉาทิฐิพระพุทธองค์ได้ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ที่หลังหิน ตามที่พระสัจพันธ์ทูลขอไว้
และครั้งที่ 3 : ในพระนครโกสัมพี มีพราหมณ์ชื่อว่า มาคันทิยะ มีธิดาสาวสวยชื่อ มาคันทิยา มาคันทิยะได้เห็นพระพุทธองค์ซึ่งงามพร้อมด้วยมหาบุรุษลักษณะทุกประการ จึงนำลูกสาวมาถวาย พระพุทธองค์ได้ทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาให้ปรากฏยังพื้นดิน แล้วเสด็จจากไปประทับอยู่ในบริเวณนั้น พราหมณีภรรยามาคันทิยพราหมณ์เห็นรอยพระพุทธบาทแล้วทราบทันทีว่า รอยเท้าเช่นนี้เป็นรอยเท้าของคนสละกามได้แล้ว ต่อมาทรงแสดงธรรมโปรดพราหมณ์ทั้งสองจนได้เป็นพระอนาคามี ปางประดิษฐานลอยพระพุทธบาทเสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนตุลาคม
เดือนพฤษจิกายน : พระปางลีลา
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบทยืนยกส้นพระบาทขวา พระหัตถ์ขวาห้อยในท่าไกว พระหัตถ์ซ้ายยกเสมอพระอุระ (อก) ตั้งฝ่าพระหัตถ์ป้องไปเบื้องหน้า ในพุทธประวัติเล่าว่าเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พร้อมเหล่าเทวดาและพรหมที่ตามมาส่งเสด็จนั้น ขบวนตามเสด็จมาหยุด ณ ประตูสังกัสสนคร เมืองที่พระสารีบุตรจำพรรษาอยู่ พระพุทธองค์ทรงมีพุทธลีลาและพระสิริงดงามยิ่ง ครอบงำรัศมีของเหล่าเทวดาและพรหมทั้งหลาย เป็นภาพที่งดงามเหนือคำบรรยาย เป็นที่ชื่นชมโสมนัสแก่พุทธบริษัทที่เฝ้ารับเสด็จ พระปางลีลาเสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนพฤษจิกายน
เดือนธันวาคม : พระปางประธานอภัย
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบทประทับขัดสมาธิ ยกพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นเสมอพระอุระ(อก) ตั้งฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองหันไปข้างหน้าเล็กน้อย ในพุทธประวัติเล่าว่าพระเจ้าอชาตศรัตรู แห่งกรุงราชคฤห์ ถูกพระเทวทัตยุยงให้ปลงพระชนม์พระราชบิดา แล้วขึ้นครองราชแทน พระเจ้าอชาตศัตรูยังทรงช่วยสนับสนุนพระเทวทัตส่งนายขมังธนูไปปลงพระชนม์พระพุทธเจ้า แต่ไม่สำเร็จ ภายหลังสำนึกตัว จึงเสด็จมาสารภาพความผิดของตนและขอพระราชทานอภัยโทษกับพระพุทธองค์ ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด หันมาทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา และทรงให้ความอุปถัมภ์ในการทำสังคายนาพระไตรปิฎก พระปางประธานอภัยเสริมสิริมงคลแก่ผู้เช่าพระพุทธรูปที่เกิดในเดือนธันวาคม
พระปางด้านบนนี้มีครบทั้ง 12 เดือนเกิด แม้ว่าแท้จริงแล้ว การเช่าพระพุทธรูปมากราบไหว้ไม่ว่าจะองค์ใด พระปางใด เกิดเดือนใด วันใด ปีใด ล้วนแล้วแต่ได้บุญกุศล และนำพาความสุขเจริญมาด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่การเลือกพระปางมาตรงกับเดือนเกิดโดยเฉพาะ ก็จะยิ่งเสริมสิริมงคลแก่ผู้กราบไหว้มากขึ้นไปอีก มาเช่าพระพุทธรูปเพื่อกราบไว้บูชาให้ตามเดือนเกิดกันนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หากท่านใดต้องการติดต่อร้านรับเช่าพระที่มีตัวตนในโลกออนไลน์ มีความน่าเชื่อถือพร้อมประสบการณ์กว่า 20 ปี สามารถติดต่อมาได้ที่
แดง บารมีหลวงพ่อ
“รับเช่าพระเครื่อง”
รับเช่าพระบูชา เก่า-ใหม่ รับซื้อถึงบ้าน ในราคาที่คุณพอใจ พร้อมให้ความรู้ ติดต่อสอบถามได้ 24 ชั่วโมง
ที่เบอร์ : 089-691-5900, 086-080-8100
หรือ Line : @barameeluangphor (เติม @ ด้วยนะครับ)
Facebook : บารมีหลวงพ่อ
สามารถส่งรูปตัวอย่างพระเครื่องมาให้เราทาง Line ได้เลยครับ